“ไดกิ้น” ผู้นำความเย็นสบายจากญี่ปุ่น โชว์ศักยภาพขึ้นแท่นอันดับหนึ่งอย่างเต็มภาคภูมิ ทุ่มทุนกว่า 30 ล้านบาท เปิด “Daikin Customer Care Center” ศูนย์บริการลูกค้าครบวงจรแห่งแรกในไทย ติดตั้งอุปกรณ์อันทันสมัย เพื่อเชื่อมโยงการบริการผ่านระบบอัจฉริยะ พร้อมเปิดตัวแอพพลิเคชั่น My Daikin ตอบโจทย์การบริการครบวงจร สร้างความพึงพอใจสูงสุดให้กับลูกค้า หวังยอดขายเติบโตกว่า 15 % ในปี 2562
ดร.พรเทพ พรประภา ประธานกรรมการ บริษัท สยามไดกิ้นเซลส์ จำกัด เปิดเผยว่า Daikin Customer Care Center เกิดจากความต้องการพัฒนางานบริการสู่ความเป็นเลิศในตลาดเครื่องปรับอากาศ เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการให้บริการลูกค้าแบบครบวงจร ตอบสนองลูกค้าได้อย่างครอบคลุม รวดเร็วฉับไว และจะเป็นโมเดลในการให้บริการที่พร้อมจะขยายไปยังทั่วทุกภูมิภาคในประเทศไทยต่อไป จึงได้ใช้งบประมาณลงทุนกว่า 30 ล้านบาท ปรับปรุงอาคารบนพื้นที่ใช้สอยทั้งสิ้น รวมกว่า 1,300 ตารางเมตร เพื่อสร้างให้เป็นศูนย์ดูแลลูกค้าของไดกิ้น ในส่วนสำนักงานใหญ่ ซึ่งครอบคุมพื้นที่ในกรุงเทพและปริมณฑล ประกอบด้วยหลายส่วนงาน ทั้งส่วนงานวางแผนกลยุทธ์และพัฒนาธุรกิจใหม่ด้านงานบริการ (Business Development) ส่วนควบคุมคุณภาพผลิตภัณฑ์และคุณภาพงานบริการ (Quality Assurance) ส่วนงานซ่อมบำรุง (Repair Service) เครื่องปรับอากาศสำหรับที่พักอาศัย (Residential) และเครื่องปรับ อากาศเชิงพาณิชย์ (Commercial) นอกจากนี้ ยังมีส่วนงานขายสัญญาบริการ (Maintenance Contract Sales) ที่ครอบคลุมลูกค้าทุกกลุ่มตามประเภทเครื่องปรับอากาศ และศูนย์จำหน่ายอะไหล่แท้ไดกิ้น
ในส่วนของแผนการตลาด มร. อาคิฮิสะ โยโคยามา ผู้จัดการใหญ่ บริษัท สยามไดกิ้นเซลส์ จำกัด กล่าวว่า ไดกิ้นมีความมุ่งหวังในการเป็นผู้นำตลาด (Market Leader) ด้านการให้บริการเครื่องปรับอาการแบบครบวงจร โดยคำนึงถึงความพึงพอใจลูกค้าสูงสุดเป็นเป้าหมายหลัก จึงมีการพัฒนาและปรับปรุงการให้บริการให้ดีขึ้นอย่างต่อเนื่อง และในอนาคตไดกิ้น จะมุ่งเน้นพัฒนาด้าน Solution Business โดยการนำเทคโนโลยีใหม่ๆ มาพัฒนางานบริการ เพื่อตอบสนองความต้องการของลูกค้าในด้านต่างๆ เช่น Green Building, Smart Home Automation และก้าวสู่การเป็น Absolute No. 1 อย่างแท้จริง “หลังจากที่ออกสินค้าตัวใหม่เพื่อตอบโจทย์ลูกค้าหลากหลายกลุ่ม ทั้งกลุ่มที่พักอาศัย และเชิงพาณิชย์ ในปี งบประมาณ 2561 ที่จะจบในเดือนมีนาคม 2562 นี้ เราคาดการณ์ว่าจะสามารถทำยอดขายเพิ่มขึ้นกว่า 15 เปอร์เซ็นต์ มูลค่ารวมกว่า 1.2 หมื่นล้านบาท ทำให้ไดกิ้นรักษาความเป็นหนึ่งในผู้นำตลาดเครื่องปรับอากาศในประเทศด้วยส่วนแบ่งการตลาดที่ 26 เปอร์เซ็นต์ ครองอันดับหนึ่งในตลาดเครื่องปรับอากาศในประเทศไทยอย่างต่อเนื่อง”
ทั้งนี้ปัจจุบันผู้ผลิตเครื่องปรับอากาศทุกรายหันมาผลักดันระบบอินเวอร์เตอร์มากขึ้น ไดกิ้นจึงคาดว่าสัดส่วนมูลค่าตลาดระบบอินเวอร์เตอร์จะเพิ่มจาก 60% ในปี 2561 เป็น 65% ในปี 2562 โดยมีเป้าหมายที่ไดกิ้นยังคงเป็นผู้นำตลาดอินเวอร์เตอร์อยู่อย่างต่อเนื่อง โดยจากยอดขายที่เติบโตต่อเนื่องสะท้อนให้เห็นว่าตลาดเครื่องปรับอากาศสำหรับที่พักอาศัย และเชิงพาณิชย์ในเมืองไทยยังคงมีมูลค่าเติบโตขึ้นทุกปี และคาดว่ามูลค่าตลาดรวมจะเติบโตประมาณ 6 เปอร์เซ็นต์ (50,000 ล้านบาท) จากปี 2561(47,300 ล้านบาท) โดยไดกิ้นมองว่าจะสามารถได้ส่วนแบ่งการตลาด 28% ในปี 2562 ซึ่งจะยังคงทำให้เราเป็นหนึ่งในผู้นำตลาดเครื่องทำความเย็นทั้งในที่พักอาศัยและเชิงพาณิชย์อย่างต่อเนื่อง
นอกจากนี้ในปี 2562 ไดกิ้นมีแผนนโยบายสนับสนุนบริการดีลเลอร์ ให้สามารถดูแลลูกค้าของบริษัทฯ เพื่อให้เกิดความพึงพอใจสูงสุดต่อผลิตภัณฑ์ และบริการ ซึ่งปัจจุบัน มีร้าน Dealer ได้สมัครมาเป็น Authorized Service Dealer จำนวนมาก โดยบริษัทฯ จะให้ความสนับสนุนด้านการฝึกอบรม ผ่านโครงการช่างแอร์ดีดี เพื่อให้มั่นใจได้ว่า ร้าน Dealer ต่างๆ ของเราสามารถให้บริการด้วยมาตรฐานเดียวกันกับบริษัทฯ พร้อมประชาสัมพันธ์ให้ลูกค้าทราบถึงตัวแทนแต่งตั้งที่ผ่านการรับรองจากบริษัทฯ เพื่อให้ลูกค้าสามารถเข้าถึงสินค้าและบริการจากไดกิ้นได้ง่ายขึ้น และเพื่อสนับสนุนการขายบริษัทก็จะมีการออกโปรโมชั่น สนับสนุน Dealer และลูกค้าอย่างต่อเนื่องตลอดทั้งปี