เปิดแนวคิดผู้บริหารห้างดังยุคใหม่แห่งปี 2019 จุ้มจิ้ม-วรนันท์ จันทรัศมี ถึงก้าวแห่งความสำเร็จ พร้อมความท้าทาย

เปิดแนวคิดผู้บริหารห้างดังยุคใหม่แห่งปี 2019 จุ้มจิ้ม-วรนันท์ จันทรัศมี ถึงก้าวแห่งความสำเร็จ พร้อมความท้าทาย

หากเอยชื่อของ จุ้มจิ้ม-วรนันท์ จันทรัศมี คงคุ้นหน้าคุ้นตาของเธอดีในบทบาทของนักแสดงมากฝีมือ แต่ในอีกหนึ่งมุมที่หลายคนอาจยังไม่รู้มาก่อนว่าสาวจุ้มจิ้มนั้นมีดีกรีเป็นถึงทายาท ไดอาน่าคอมเพล็กซ์ ศูนย์การค้าขนาดใหญ่ในแถบภาคใต้ตอนล่างที่ครองใจชาวใต้และนักท่องเที่ยวมานานกว่า 35 ปี และด้วยประสบการณ์ทางการศึกษาของเธอที่จบปริญญาตรี เกียรตินิยมอันดับ 1 จากคณะเศรษฐศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ผนวกกับในวัยเด็กคุณพ่อได้พร่ำสอน และให้มาช่วยงานที่ห้างฯ อยู่เสมอ ส่งผลให้ความเชี่ยวชาญด้านการทำธุรกิจของเธอนั้นไม่เป็นสองรองใคร

 

 

 



และแม้จะเพิ่งเปลี่ยนสถานะจากสาวโสดมาเริ่มต้นชีวิตครอบครัวไปหมาดๆ แต่ผู้บริหารสาวก็ยังคงคอนเซ็ปต์เวิร์คกิ้งวูแมนคนเก่งได้อย่างไม่มีตกหล่น ถึงจะต้องเดินทางไปกลับกรุงเทพฯ-หาดใหญ่อยู่บ่อยๆ ก็ไม่ใช่ปัญหา เพราะถือว่าได้ทำงานที่รัก และสานต่อธุรกิจที่ผูกพันมาตั้งแต่ยังเด็ก ซึ่งเธอเองหมายมั่นปั้นมือว่าจะต้องพัฒนาธุรกิจห้างฯ ของครอบครัวให้ครองใจชาวใต้ตอนล่างให้ได้ “เราเห็นคุณพ่อทำธุรกิจนี้มาตั้งแต่ยังเด็กก็เกิดเป็นความผูกพัน และความมุ่งมั่นที่อยากจะพัฒนาห้างฯ ของเราให้เป็นที่หนึ่งในภาคใต้ตอนล่าง ซึ่งยอมรับว่าการทำธุรกิจห้างฯ ในยุคนี้มีความท้าทายมาก เพราะคู่แข่งค่อนข้างเยอะ ทำให้คนมีตัวเลือกมากขึ้นในการตัดสินใจ ฉะนั้นจึงต้องสร้างจุดเด่นให้กับแบรนด์ของตนเอง สร้างให้ห้างฯ ของเราเป็นไลฟ์สไตล์เซ็นเตอร์ที่มีบริการและผลิตภัณฑ์ที่สามารถตอบโจทย์ทุกคนได้อย่างครอบคลุม พร้อมกระจายสาขาให้มากขึ้น ซึ่งตอนนี้ศูนย์การค้าไดอาน่ามีสาขาหลักอยู่ใจกลางเมืองหาดใหญ่ ครอบคลุมพื้นที่ขายกว่า 60,000 ตารางเมตร และยังมีสาขาห้างสรรพสินค้าที่ปัตตานี และไดอาน่าซูเปอร์อีก 6 สาขา ซึ่งตั้งอยู่ในศูนย์การค้าไดอาน่าคอมเพล็กซ์มีสาขาหาดใหญ่ และปัตตานี โดยอีก 4 สาขาตั้งเป็นแบบสแตนอโลนอยู่ในเขตพื้นที่จังหวัดสงขลา ปัตตานี และนราธิวาส”

 

 



โดยในทุกสาขาของไดอาน่าได้ถูกออกแบบมาเพื่อตอบโจทย์การใช้ชีวิตของคนพื้นที่ แต่ในขณะเดียวกันสาวจุ้มจิ้มก็ยังคงมุ่งพัฒนานำเสนอสิ่งใหม่ให้กับชาวใต้และนักท่องเที่ยวอยู่เสมอ ให้เปรียบเสมือนเป็น Lifestyle and Entertainment center ที่มีทั้งแฟลกชิพสโตร์เสื้อผ้าและสินค้าไลฟ์สไตล์จากแบรนด์ดัง, ร้านอาหารชื่อดังและร้านพื้นเมืองยอดนิยมในหาดใหญ่ รวมถึงโรงภาพยนตร์ไดอาน่าซีนีเพล็กซ์ที่จับมือกับเมเจอร์กรุ๊ป มอบประสบการณ์การชมภาพยนตร์อย่างเหนือระดับ ด้วยตั๋วหนังราคาถูกที่สุดในเมืองหาดใหญ่ อีกทั้งยังเพิ่มการจัดอีเว้นท์ภายในห้างฯ อย่างสม่ำเสมอเพื่อให้เกิดกิจกรรมหมุนเวียน ทำให้คนอยากมาที่ห้างฯ กันมากขึ้น แต่นอกเหนือจากการพัฒนาธุรกิจของครอบครัวแล้ว อีกหนึ่งจุดประสงค์ที่จุ้มจิ้มนั้นคำนึงถึงอยู่เสมอก็คือการยกระดับคุณภาพชีวิตของคนในชุมชนให้มีความสุขขึ้น ไปจนถึงมอบโอกาสในการสร้างรายได้ให้คนในชุมชน

 

 



“ในพื้นที่ห้างฯ ของไดอาน่าเราจะมีโซนที่จัดไว้ให้สำหรับผู้ประกอบการท้องถิ่นโดยเฉพาะ เพราะยังอยากให้ไดอาน่านั้นมีกลิ่นอายของความเป็นชุมชนภาคใต้อยู่ เราไม่อยากให้ภาพของความอบอุ่นและเป็นกันเองที่มีมาตลอด 35 ปีนั้นจางหายไป จึงเป็นสาเหตุให้เรามุ่งพัฒนาภายในห้างฯ ให้มีความทันสมัย แต่ในขณะเดียวกันก็ยังมีบรรยากาศที่แสดงให้เห็นถึงวิถีชีวิตของผู้คนภาคใต้แฝงอยู่ ซึ่งสำหรับคนใต้นั้นจะมีความแตกต่างในเรื่องของเชื้อชาติ ศาสนา และวัฒนธรรม มีทั้งคนที่นับถือศาสนาพุทธ ชาวไทยเชื้อสายจีน และชาวมุสลิม รวมถึงนักท่องเที่ยวที่มาจากมาเลเซีย และสิงคโปร์ ดังนั้นเราจึงมีบริการที่รองรับลูกค้าทุกกลุ่ม เช่น ห้องละหมาด สินค้า และอาหารฮาลาลที่แยกภาชนะสำหรับลูกค้าชาวมุสลิม รวมถึงการจัดกิจกรรมต่างๆ ทางศาสนา ไปจนถึงกิจกรรมเพื่อสาธารณประโยชน์ให้คนพื้นที่ เช่น จัดการตรวจสุขภาพฟรี, ให้ความรู้เบื้องต้นทางการแพทย์, รับบริจาคโลหิต รวมถึงงานวิ่งการกุศลเพื่อสมทบทุนให้มูลนิธิสมเด็จย่า ช่วยเหลือผู้ป่วยทางทันตกรรม ซึ่งเราจัดต่อเนื่องกันมาเป็นระยะเวลา 4 ปีแล้ว ”

 

 



เรียกได้ว่าหากพูดถึงศูนย์การค้าขนาดใหญ่ครบวงจรของภาคใต้ตอนล่างแล้ว แน่นอนว่ากลุ่มนักท่องเที่ยวและคนท้องถิ่นจะต้องนึกถึงไดอาน่าคอมเพล็กซ์อย่างแน่นอน แต่ในยุคสมัยที่โลกกำลังพัฒนาอย่างไม่หยุดนิ่ง สำหรับผู้บริหารสาวไฟแรงนั้นการทำให้ธุรกิจประสบความสำเร็จแค่เพียงในท้องถิ่นนั้นย่อมไม่เพียงพอ เธอมุ่งมั่นผลักดันธุรกิจให้เข้าสู่โลกออนไลน์ และใช้เวลาเพียงไม่นานก็สามารถสร้างฐานลูกค้าใหม่ได้อย่างรวดเร็ว

 

 



“ยุคที่เทคโนโลยีมีการพัฒนาอย่างสม่ำเสมอเราจึงไม่สามารถพาธุรกิจเติบโตด้วยการขายแบบเดิมๆ ได้ ไดอาน่าได้ปรับตัวด้วยเทคนิคการขายแบบเชิงรุก ด้วยการเพิ่มช่องทางการซื้อขายแบบออนไลน์ เพราะเราไม่ต้องการจำกัดลูกค้าให้อยู่แค่ในภาคใต้ โดยเราแยกประเภทสินค้าเป็นแบบทั่วไป และอาหารพร้อมรับประทาน ซึ่งสินค้าทั่วไปบริการจัดส่งจะครอบคลุมทั่วประเทศไทยทั้งช่อง E-Commerce และ Social Commerce อีกทั้งยังมีช่องทาง Big Marketplace ที่เราจับมือกับ Shopee ภายใต้ชื่อไดอาน่าช็อปออนไลน์ ส่วนอาหารพร้อมรับประทานนั้นได้เปิดช่องทางออนไลน์ภายใต้ชื่อ อร่อยเดลิเวอรี่ บริการจัดส่งอาหารและเครื่องดื่มทั่วพื้นที่หาดใหญ่กว่า 200 เมนู จากทุกร้านในเครือของไดอาน่า นอกจากนี้ในอนาคตก็มีวางแผนจะขยายการขายและจัดส่งไปยังประเทศใกล้เคียงอย่างกลุ่มประเทศ CLMV เพราะเรามองว่าการทำธุรกิจออนไลน์นั้นสามารถเติบโตได้อย่างไม่มีขีดจำกัด และเราเองก็อยากพัฒนาตัวเองให้เก่งขึ้นเรื่อยๆ เช่นกัน”

 

 



ในฐานะผู้บริหารที่ต้องรับบทบาทดูแลอาณาจักรช็อปปิ้งขนาดใหญ่ แน่นอนว่าย่อมสร้างความกดดันให้ผู้บริหารคนเก่งได้อย่างแน่นอน แต่สำหรับเธอนั้นกลับมองว่าเป็นความท้าทายหนึ่งของชีวิต ซึ่งสาวเก่ง จุ้มจิ้ม-วรนันท์ จันทรัศมี ยังได้แนะนำเคล็ดลับการทำงานให้ประสบความสำเร็จตามแบบฉบับผู้บริหารสาวยุคใหม่ว่า “สิ่งสำคัญของการทำงานบริหารที่มีขนาดใหญ่คือการมีทีมที่ดี ซึ่งเราจะคำนึงถึงการทำงานแบบทีมเวิร์คเป็นหลัก โดยในมุมที่เราเป็นผู้หญิงก็จะมีความยืดหยุ่นในการทำงานบ้าง เพราะไม่อยากให้ทีมต้องอยู่ภายใต้แรงกดดันที่มากเกินไป แต่ในขณะเดียวกันตัวเราเองและทีมก็ต้องคอยพัฒนาฝีมือการทำงานด้วยเช่นกัน เพราะในยุคสมัยที่หลายอย่างพัฒนาไปอย่างรวดเร็ว ตัวเราเองก็ไม่ควรหยุดพัฒนาโดยเฉพาะความรู้ที่สามารถสร้างประโยชน์ให้กับงานที่ทำได้ เรายิ่งจำเป็นจะต้องเรียนรู้

 

 

 

ซึ่งนอกจากการอัพเดทความรู้จากหนังสือ และในโลกออนไลน์แล้ว โดยส่วนตัวเราก็จะชอบพูดคุยแลกเปลี่ยนกับคนที่มีประสบการณ์มากกว่าเพื่อนำข้อคิดที่ได้มาปรับใช้กับธุรกิจของตนเอง เช่น การสร้างจุดเด่นให้แตกต่างจากคู่แข่งและมีกลุ่มเป้าหมายที่ชัดเจนว่าธุรกิจของเราถูกสร้างขึ้นมาเพื่อใคร แต่นอกเหนือจากการทำงานอย่างมุ่งมั่น การพักผ่อนและการสร้างแรงบันดาลใจก็เป็นส่วนหนึ่งที่มีผลต่อการทำงานเช่นกัน เพราะสามารถสร้างไอเดียดีๆ ให้เกิดขึ้นได้เสมอ ซึ่งสำหรับไลฟ์สไตล์วันว่างเรามักจะดูแลตัวเองด้วยการออกกำลังกาย รวมถึงอุทิศเวลาส่วนใหญ่ให้กับการเดินห้างฯ เพื่ออัพเดทเทรนด์การทำห้างฯ ใหม่ๆ แต่ถ้าเป็นช่วงที่ทำงานเยอะจนเกินไป ก็มักจะหาเวลาพักผ่อนด้วยการเดินทางท่องเที่ยวต่างประเทศ ได้พบปะผู้คน เรียนรู้วิถีชีวิต และวัฒนธรรมที่แตกต่าง นั่นคือการสร้างแรงบันดาลใจให้การทำงานที่ดีอย่างหนึ่งของเรา”

เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพและประสบการณ์ที่ดีในการใช้งานเว็บไซต์ของท่าน ท่านสามารถอ่านรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว  และ  นโยบายคุกกี้