พักพูลวิลล่าสุดหรูที่ Sri Panwa
วันหยุดแบบนี้ คิดว่าจะช้อปปิ้งชิลล์ๆ ในเมือง คลายเครียดหน่อย กลับมีเพื่อนรู้ใจชวนไปนอนเล่นกลางเกาะภูเก็ต เจอทริปแบบไม่ทันตั้งตัวแบบนี้ จึงไม่ได้หาที่พักไว้ล่วงหน้า และด้วยความไม่แน่ใจว่าที่ไหนจะว่างบ้าง ด้วยความที่อยากหนีเที่ยวเป็นทุนเดิมอยู่แล้ว จึงรีบโทรศัพท์หาศรีพันวาทันที เพราะเป็นโรงแรมเดียวในภูเก็ตที่เรามีเบอร์ คนมีดวง จะต้องเดินทางเป็นแบบนี้เอง เพราะปลายสายบอกว่า ลักซูรี่วิลล่า ยังว่างอยู่ 1 หลังสุดท้าย เราจึงรีบจองที่พักทันที แม้จะยังไม่ได้เช็คเที่ยวบิน
มาภูเก็ตมักจะพักที่ศรีพันวาเป็นประจำ แม้จะจำทุกสิ่งอย่างได้ แต่เราก็ไม่เคยเบื่อ เพราะที่นี่ไม่ได้มีแค่วิวทะเลตัดขอบฟ้า แต่วิลล่าทุกหลัง จะแฝงตัวอยู่ท่ามกลางแมกไม้ ส่วนจุดเด่นของห้องลักซูรี่วิลล่า คือ สระว่ายน้ำจากปลายเตียง ที่ตัดขอบทะเล ดังนั้นหากเพื่อนสนิทที่มาด้วยกัน ไม่ยอมตื่น เราก็สามารถผลักเค้าจากที่นอนลงไปไว้น้ำปลายเตียงได้ยามเช้า แต่ความจริงคงไม่เป็นเช่นนั้น เพราะเราทั้งคู่ต่างรีบตื่นขึ้นมาตั้งแต่ตี 5 เพื่อเฝ้าดูพระอาทิตย์ขึ้นปลายเตียงเรานั่นเอง
โซนลักซูรี่วิลล่า ตั้งอยู่ทางทิศตะวันออก จึงเป็นเหตุผลที่เราเลือกห้องประเภทนี้ เพื่อดูพระอาทิตย์ขึ้นจากท้องทะเล ส่วนยามพระอาทิตย์ตก เราก็เลือกที่จะชมซันเซ็ทพร้อมจิบไวน์หรือเครื่องดื่มเก๋ๆ ที่บาบาเนส ซึ่งอยู่บน roof top ของรีสอร์ท ดังนั้นลูกค้าที่พักจึงสามารถมาใช้บริการได้ และน่าจะเป็นบาร์ที่เดียวในภูเก็ต ที่เห็นวิวสวยที่สุด ยามพระอาทิตย์ลงทะเล
หลังจากใช้เวลาหลังอาหารเช้าด้วยการฟังแจ๊สเพราะๆ จากเครื่องเสียง Bose จนเกือบทำให้เราหลับไป ก็ได้สติว่า ถึงเวลาที่เรานัดทำสปา แบบคูลๆ แล้ว Cool Spa อยู่ภายในพื้นที่ของรีสอร์ท ตกแต่งแบบโดดเด่น ด้วยโทนสีฟ้า และเมื่อเราผลักประตูเปิดเข้าไป ก็ทำให้เราเห็นลานโยคะโล่งกว้าง กลางแจ้ง ตัดกับขอบทะเล จึงทำให้เรารู้สึกได้ถึงความผ่อนคลาย ปลดปล่อยจิตใจ ตั้งแต่ยังไม่ได้ทำสปา
เมื่อเข้าไปภายในห้องทรีทเมนท์ เสียงที่เราได้ยินชัดเจนมากกว่า เพลงบรรเลง คือ เสียงน้ำตก ซึ่งแทรกตัวอยู่ท่ามกลาง ร่มไม้ในสวน แม้ภายในห้องนวดจะปิดประตู แต่เราก็รับรู้ได้ถึงความผ่อนคลายจากธรรมชาติที่โอบล้อมตัวเรา ที่คูลสปาได้นำวัตถุดับพืชพรรณ และผลไม้ตามฤดูกาลจากท้องถิ่น อย่างเช่น มะม่วง, มะละกอ, เงาะ, มะขาม, โยเกิร์ต, และน้ำผึ้ง มารังสรรค์ให้เป็นเมนูนวดเฉพาะตัวตามสไตล์ศรีพันวา นอกจากนี้ยังมีการนวดด้วยสมุนไพรลูกประคบ ผสมผสานอโรมาเทอร์ราปี ซึ่งช่วยบำบัดการไหลเวียนของเส้นเลือดพร้อมมอบการบำรุงผิว
เราตัดสินใจเลือกเมนู Delight คือนวดแบบสวีดิช 60 นาที พร้อมกับ Sweet Delight Mango Scrub หรือ สครับจากมะม่วงเพื่อดึงสิ่งสกปรกออกจากผิว และเผยผิวที่สดใส ราคา 3,200 บาท ซึ่งหลังจากตื่นขึ้นมา ก็รู้สึกถึงความสงบ และผ่อนคลายจากความเหนื่อยล้าที่สะสมมาตลอดทั้งสัปดาห์ เวลาพักผ่อนสุดสัปดาห์ช่างผ่านไปอย่างรวดเร็ว แม้ว่าทริปนี้จะไม่ได้ออกเรือไปดำน้ำกลางทะเล เพราะเป็นโปรแกรมด่วน แต่กลับทำให้เรารู้สึกว่า การใช้เวลาในพูลวิลล่าแบบส่วนตัว ท่ามกลางธรรมชาติแวดล้อมนับเป็นการฟื้นฟู และชาร์ตพลังสำหรับเตรียมตัวทำงานในสัปดาห์หน้า ก่อนที่เรา จะหาเรื่องออกไปเที่ยวอีก ..
