OGEU น้ำแร่ธรรมชาติพรีเมี่ยมจากฝรั่งเศส เปิดตัวในฐานะเครื่องดื่มคู่อาหารระดับกูร์เม่ต์

ต้นกำเนิดของ Ogeu ย้อนกลับไปได้ถึง 200 ปี เมื่อบ่อน้ำในเทือกเขาพีเรนีสถูกค้นพบในปี 1820 บ่อน้ำที่สะอาดบริสุทธิ์ ถูกรักษาเป็นอย่างดีนี้ ซ่อนตัวอยู่ในบริเวณที่เข้าถึงยากที่สุดของเทือกเขาพีเรนีส ห่างไกลจากการบุกรุกของตัวเมือง และตัดขาดจากความศิวิไลซ์ทั้งปวง น้ำถูกกรองผ่านชั้นหินสลับซับซ้อนหลายชั้น และอยู่ลึกใต้ผิวดิน 500 เมตร

Ogeu ก็ได้รับความนิยมมากขึ้นเรื่อยๆ ในฐานะผู้นำทางด้านน้ำแร่ธรรมชาติบรรจุขวด 1 ใน 4 ของประเทศฝรั่งเศส และมีจำหน่ายใน 20 ประเทศทั่วโลก น้ำแร่ Ogeu เคียงคู่กับอาหารหรูเลิศได้เป็นอย่างดี ด้วยรสชาติที่เนียนนุ่มและมีส่วนประกอบของเกลือแร่น้อย จึงช่วยส่งเสริมรสชาติอาหาร เช่นเดียวกับไวน์ ได้อย่างดีเลิศ Ogeu จึงเหมาะมากกับการเคียงคู่อยู่บนโต๊ะอาหารระดับเลิศ บรรจุในขวดสวยงาม

Ogeu มีความโดดเด่นตรงที่ฝาขวดเป็นสีธงชาติประเทศฝรั่งเศส ซึ่งเปรียบเสมือนการรับรองความพิเศษและคุณภาพของสินค้าที่ผลิตในประเทศฝรั่งเศส เช่นเดียวกับอาหารฝรั่งเศสที่ยูเนสโกได้ประกาศให้เป็นมรดกโลก และวันนี้ Ogeu พร้อมแล้วที่จะจำหน่ายในประเทศไทย โดยบริษัท IHC ซึ่งเป็นผู้นำเข้าและผู้แทนจำหน่ายแต่ผู้เดียวในประเทศไทย

ไอเอชซีจับมือกับ ร้านอาหารฝรั่งเศส 6 แห่งในกรุงเทพฯ เพื่อนำเสนอโปรโมชั่นเซ็ตเมนูพิเศษ ร้านอาหารเหล่านี้ต่างมีสไตล์ที่โดดเด่นเป็นของตัวเอง ได้แก่ ร้าน Artur, Le Cabanon, Loulou Forks & Glasses, Oskar Bistro, The Reflexions และ Savelberg ซึ่งร้านอาหารทั้ง 6 แห่งพร้อมที่จะเสิร์ฟน้ำแร่ Ogeu กับเซ็ตเมนูที่สร้างสรรค์ขึ้น โดยได้แรงบันดาลใจจากน้ำดื่มนี้ ในขณะเดียวกัน นักชิมชาวไทยที่มีสไตล์ และรสนิยมละเมียดละไม ที่มั่นใจในคุณภาพของน้ำแร่จากฝรั่งเศสก็สามารถซึมซับ และดื่มด่ำกับรสชาติที่พิเศษของ Ogeu ในร้านอาหารชั้นนำเหล่านี้ได้ รวมทั้งโรงแรม และคาเฟ่ต่างๆทั่วประเทศ ตั้งแต่กลางเดือนสิงหาคมเป็นต้นไป

Le Cabanon : เสน่ห์ของร้านอาหารฝรั่งเศสระดับหรูนี้คือเป็นบ้านโบราณ มีความเชี่ยวชาญในด้านอาหารฝรั่งเศสสไตล์แคว้นบาสค์ ซึ่ง Martine Pailloux หัวหน้าเชฟบรรจงสร้างสรรค์ เขามีประสบการณ์การทำอาหารมากว่า 40 ปี เซ็ตเมนู Ogeu ของร้านอาหารนี้เริ่มต้นด้วยซีฟู้ดนานาชนิด ตามด้วยราวิโอลีฟัวกราส์และทรัฟเฟิล ในซุปเห็ดใส สำหรับจานหลัก มีให้เลือกระหว่างล็อบสเตอร์ย่าง กับเฟตตูชินีในซ้อสครีมกุ้ง หรือเนื้อโกเบวากิวเทนเดอร์ลอยน์ (สำหรับผู้ที่ไม่รับอาหารทะเลจานแรก) ตบท้ายเซ็ตเมนูด้วยเนยแข็งนานาชนิด พร้อมด้วยชีส Les Freres Marchand และราสพ์เบอรี่โฟลตติ้งไอส์แลนด์ ของหวานยอดนิยมของประเทศฝรั่งเศส ราคาเซ็ตเมนูของ Le Cabanon คือ 2,500++ บาท

Loulou Forks & Glasses : ร้านอาหารบรรยากาศเป็นกันเองแห่งนี้ ตั้งอยู่ในบรรยากาศสวนหลังบ้านร่มรื่น ท่ามกลางความเขียวครึ้มของแมกไม้ เป็นร้านอาหารฝรั่งเศสที่เน้นทางด้านอาหารเมดิเตอร์เรเนียน ลูลูมีเมนูที่เรียบง่ายและอร่อยไม่ผิดหวัง ปรุงโดย Xavier Fauvel พ่อครัวใหญ่ของร้าน เซ็ตเมนู Ogeu ของที่นี่เริ่มต้นด้วย ทาร์ทาร์ปลากระพงแบบโพลีนีเชียน พร้อมซ้อสกะทิและเสาวรส คอร์สที่สองเป็นหอยเชลล์ฮอกไกโดบนขนมปังปิ้ง เสิร์ฟมากับเบคอนโฮมเมด เมนคอร์สคือเนื้อเทนเดอร์ลอยน์จากนิวซีแลนด์ กับซ้อสทำจากผลไม้สีแดงและหอมใหญ่แดง สำหรับของหวานเป็นคุ้กกี้เนยสไตล์ฝรั่งเศสกินคู่กับไอศกรีมวานิลลามาดากัสการ์ สตรอเบอร์รี่ ช็อกโกแลตทองก้า และเหล้าหวานกองโทร เซ็ตเมนูโอจูของลูลู ฟอร์คส์ แอนด์ กลาสเซสราคา 1,600++ บาท

Savelberg : มร.เฮงค์ ซาเวลเบิร์กคือพ่อครัวใหญ่ และเจ้าของร้านอาหารระดับหนึ่งดาวมิชลินแห่งนี้ บรรยากาศของร้านสบายด้วยเพดานสูงโล่ง ร้านทำครัวแบบเปิด ผู้มารับประทานอาหารจึงสามารถมองเห็นความเคลื่อนไหวของเชฟ ในขณะจัดเตรียมปรุงอาหารฝรั่งเศสแสนอร่อยได้อย่างเพลิดเพลิน เซ็ตเมนูโอจูของ Savelberg เริ่มด้วย กุ้ง Langoustines พร้อมมะเขือเทศออแกนิก แฮมไอเบอริโกโลโม และซุปกาสปาโชขาว คอร์สที่สองคือปลาโซลนาบกระทะกับเห็ดทรัฟเฟิล ถั่วลันเตา หอมใหญ่ทอด และน็อคชี่ เมนคอร์สคือนกกระทาห่อด้วยเบคอน นกกระทายัดไส้ฟัวกราส์และทอดด้วยน้ำมันมะกอก จานนี้เสิร์ฟกับเบบี้แครอทบดละเอียด แครอทดอง อัลมอนด์ และซ้อสนกพิราบ สำหรับของหวาน เป็นมูสขิงและไอศกรีมสมุนไพรไทย ซึ่งอร่อยจนอดใจไม่ไหว เซ็ตเมนูโอจูของ Savelberg ราคา 2,600++ บาท

Artur Restaurant : จานเด่นที่มีชื่อเสียงที่สุดของร้านคือสเต็คเนื้อชุ่มฉ่ำ ร้านตกแต่งอย่างหรูหราสไตล์ฝรั่งเศส แต่มีบรรยากาศที่สนุกสนาน สำหรับเซ็ตเมนู Ogeu ที่ร้านภูมิใจนำเสนอนั้น หลังจากอมิวส์บูชแล้ว ก็เป็นซาร์ดีนจากทะเลแอตแลนติกดอง ราดซ้อสเลมอนและเมล็ดเฟนเนลให้รสเปรี้ยวหวานชื่นใจ คอร์สต่อมาเป็นซุปกาสปาโชถั่วลันเตาและวาซาบิ พร้อมแฮมพีเรนีสหั่นเต๋า เมนคอร์สมีให้เลือกระหว่างปลากระพงจากแอตแลนติกย่างพร้อมสลัดผักสไตล์แคว้นบาสค์ หรือแกะย่างเคลือบด้วยชอริโซและเกล็ดขนมปัง ตบท้ายเซ็ตเมนูด้วยเนยแข็งในฤดูกาลจากแคว้นพีเรนีส หรือพรุนต้มในน้ำชาเสิร์ฟพร้อมไอศกรีมวานิลลา เซ็ตเมนู Ogeu ของ Artur ราคา 1,650++ บาท

Oskar Bistro : มีชื่อเสียงในด้านการตกแต่งสไตล์อินดัสเทรียล เรียบง่ายแต่ได้บรรยากาศเก๋ไก๋ Oskar Bistro คือสถานที่ที่เหมาะมากกับการแฮงก์เอ้าท์กับเพื่อนฝูง และอร่อยเต็มอิ่มกับอาหารพื้นบ้านเมดิเตอร์เรเนียน ซึ่งเป็นฝีมือของเชฟ Julien Lavigne เซ็ตเมนูของ Oskar Bistro เริ่มต้นด้วยทูน่าแดงทอด กับสลัดถั่วขาว โหระพา และกระเทียม คอร์สที่สองเป็นทาร์ทาร์หอยเชลล์ฮอกไกโดและทูน่า ใบมิซูน่า น้ำสลัดเลมอนและดิลล์ แต่งเติมด้วยดิลล์สด หอยเชลล์ทำสุกมาเล็กน้อยเคล้ากับหอมแดงชิ้นเล็กๆ ตามมาด้วยพาสต้าตากลิอาเตลโฮมเมดกินกับอกไก่ฟรีเร้นจ์ เห็ดป่า และซ้อสทรัฟเฟิล ของหวานตบท้ายมื้ออาหารคือทาร์ตคัสตาร์ดไข่กับพลัมแห้ง เสิร์ฟพร้อมไอศกรีมวานิลลา เซ็ตเมนูของ Oskar Bistro ราคา 1,450++ บาท

The Reflexions : ห้องอาหารฝรั่งเศสของโรงแรมพลาซา แอทนี ซึ่งได้ดาวมิชลิน 1 ดวง มีการตกแต่งที่หรูหราสะดุดตา แต่ให้บรรยากาศสบายๆ และเอื้อต่อการเอร็ดอร่อยกับอาหารที่ปรุงขึ้นด้วยความใส่ใจแม้กระทั่งรายละเอียดเล็กๆน้อยๆของเชฟ Roxanne Lange เซ็ตเมนู Ogeu ที่เชฟจัดมานั้นเริ่มต้นด้วย หอยนางรม David Herve ครีมเปรี้ยว เฟนเนล คาเวียร์ออสซิเอตร้า ต่อด้วยปลาฮามาจิ ไชเท้าดอง แตงกวา ไวเนเกร็ตขิง จานต่อมาเป็นหอยเชลล์ฮอกไกโด เห็ดวินเทอร์ทรัฟเฟิลจากออสเตรเลีย กระหล่ำปลี คอร์สถัดมาคือปลาโดเวอร์โซล ผักโขม มันฝรั่ง องุ่นเขียว และเนยขาว ส่วนเมนคอร์สคือเนื้อแกะ พริกหวาน อาร์ติโช้คเยรูซาเล็ม กระเทียม ของหวานคือออริโอ โยเกิร์ต ผลไม้สีแดง ตบท้ายด้วยกาแฟ และชาคัดสรรพิเศษ เซ็ตเมนูโอจูของ Refelxions ราคา 3,500++ บาท

ดื่มด่ำกับรสชาติที่พิเศษของ Ogeu ในร้านอาหารชั้นนำเหล่านี้ รวมทั้งโรงแรม และคาเฟ่ต่างๆทั่วประเทศ ตั้งแต่กลางเดือนสิงหาคมเป็นต้นไป